ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) กล่าวถึงกรณีที่ นายธนชน มุทาพร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.)ชัยภูมิ เขต 1 ไม่ลงนามปรับอัตราเงินเดือนครู 57 ราย แต่ให้ รองผู้อำนวยการสพป.ชัยภูมิ เขต1 ลงนามแทน เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ว่า ไม่ยอมรับอำนาจของศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) นั้น ตามที่ดูสิ่งที่นายธนชนพูดเป็นความคิดเห็นส่วนตัว เพราะไม่ใช่เป็นตัวแทนผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ เป็นเพียงประธานชมรมกลุ่มเล็ก ๆ และเขาก็ได้ไปแจ้งความแล้วว่าเขาไม่ได้พูดว่าผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.)ทั่วประเทศงัดข้อศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.)อย่างไรก็ตามถ้าถามว่าสิ่งที่นายธนชนกระทำผิดหรือไม่ ในเบื้องต้นดูว่าน่าจะผิดในความเป็นข้าราชการ เพราะข้าราชการมีหน้าที่ที่จะต้องทำตามกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แบ่งอำนาจมาแล้วว่าใครทำอะไร เมื่อเป็นกฎหมายอย่างไรก็ต้องทำ จะมาประกาศวามไม่ทำเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์นั้นทำไม่ได้ โดยตนได้มอบให้นิติกร ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ได้พิจารณาทางวินัยว่าตามมาตรฐานโทษนายธนชนมีความผิดขนาดไหน ซึ่งต้องดำเนินการ เพราะความผิดปรากฏชัดแจ้งต่อสาธารณชน
“ผมได้ชี้แจงในกลุ่มไลน์ของผอ.สพท.ทั่วประเทศไปแล้ว ว่า กระแสบ้านเมืองขณะนี้ต้องการความร่วมมือ ต้องการความปรองดอง และบูรณาการ การทำงานร่วมกัน ดังนั้น การจะไปออกข่าวว่าจะไม่ทำอะไรร่วมกันกับ ศธจ.ถือเป็นการสวนกระแสของสังคม และผมยืนยันมาตลอดว่า สพฐ. ให้ ผอ.สพท.ทุกเขตพื้นที่ฯร่วมมือ สนับสนุน และบูรณาการภารกิจกับ ศธจ. มาโดยตลอด ซึ่งผมกับนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ชี้แจงมาเตลอดมา ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นการกระทำหรือเว้นการกระทำการใดๆที่ทำให้ราชการเสียหายถือเป็นความผิดทางวินัย ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหรือผม ถ้าทำให้ราชการเสียหาย ก็ต้องถูกตรวจสอบทางวินัย”เลขาธิการ กพฐ. กล่าวและว่า นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ไม่ได้โกธรตัวบุคคลหรือว่าอะไร แต่ถ้าอะไรที่เห็นว่าไม่เหมาะไม่ควรก็จะบอกให้ผู้บังคับบัญชาดูในเรื่องของกฎหมาย ไม่ได้ฟันธงว่าจะต้องลงโทษหรือทำอะไร กฎหมายว่าไว้อย่างไร ตนในฐานะผู้บังคับบัญชาก็ต้องดำเนินการตามนั้น