เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2565 ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้มีการหารือถึงการจัดสอบคัดเลือกผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ประจำปี 2565 ซึ่งได้จัดสอบภาค ก ความรู้เกี่ยวกับการบริหารงานในหน้าที่และความสามารถในการวิเคราะห์กฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องและการนำไปใช้ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้สอบผ่านการคัดเลือก จำนวน 500 ราย จากผู้สิทธิ์สอบ 514 ราย ไม่มาสอบ 2 ราย มาสอบ 512 ราย คิดเป็น 98% ของผู้เข้าสอบ เหลือการสอบภาค ข ความสามารถทางการบริหาร และภาค ค ความเหมาะสมกับตำแหน่ง วันที่ 22-28 สิงหาคม 2565 และสอบสัมภาษณ์ วันที่ 27-28 สิงหาคม 2565 ประกาศผลการคัดเลือก วันที่ 5 กันยายน 2565 นี้ ทั้งนี้การประเมินภาค ข และ ภาค ค จะเน้นดูวิสัยทัศน์ และประสบการณ์การทำงาน ซึ่งต้องเป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่กำหนด ยืนยันว่าการประเมินทุกขั้นตอนต้องเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส ไม่มีเด็กฝาก ไม่มีใครแทรกแซง และไม่มีใครวิ่งเต้นในการสอบผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯครั้งนี้ได้แน่นอน
“ผมอยากได้คนเก่งและมีฝีมือจริง ๆ มาดูแลกระทรวงศึกษาธิการ ดังนั้นการสอบครั้งนี้จะทำให้ทุกคนได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด และตอนนี้ผมจะยังไม่ตั้งกรรมการสอบภาค ข และ ภาค ค แต่มีชื่ออยู่ในใจแล้วว่า จะเชิญใครมาร่วมเป็นกรรมการบ้างซึ่งล้วนเป็นคนที่มีประสบการณ์ ไว้ใจได้ ประเมินทุกอย่างด้วยความเป็นธรรม ที่สำคัญจะต้องตรวจสอบได้ โดยจะมีการสร้างรูปแบบการประเมินในแต่ละด้าน มีการวัดประเมินผลอย่างตรงไปตรงมา หลังประกาศผลผู้เข้าสอบสามารถตรวจสอบคะแนนของตัวเองได้ เพื่อปิดทางในการวิ่งเต้น อย่างไรก็ตามสำนักงานปลัดศธ. มีหน้าที่สอบ ส่วนการบรรจุแต่งตั้ง เป็นอำนาจของสพฐ. ซึ่งขณะนี้มีตำแหน่งว่าง 13 อัตรา และในเดือนกันยายนนี้จะมีผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ เกษียณอายุราชการ 63 คน รวมตำแหน่งผอ.เขตพื้นที่จะว่าง รวมจำนวน 76 คน ดังนั้นเป็นไปได้ว่า สพฐ.อาจจะแต่งตั้ง โยกย้ายไปในคราวเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งหลายทั้งมวลก็ขึ้นอยู่กับสพฐ. ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งจะได้รับการขึ้นบัญชีไว้ 2 ปี”ปลัดศธ.กล่าว
ดร.สุภัทร กล่าวต่อไปว่า หลังจากนี้ก็จะเตรียมจัดสอบรองศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) แทนอัตราเกษียณฯประมาณ 10 ตำแหน่ง ซึ่งคาดว่าตนจะไม่สามารถดำเนินการได้ทันก่อนเกษียณฯ ดังนั้น จะเป็นหน้าที่ของปลัดศธ.คนใหม่ที่ต้องมาดำเนินการแทน ส่วนศึกษาธิการภาค (ศธภ.) ซึ่งมีทั้งหมด 12 อัตรา ที่ผ่านมามีการแต่งตั้งไปแล้ว 7 ตำแหน่ง เหลืออีก 5 ตำแหน่งที่ยังไม่ได้รับการแต่งตั้ง และในวันที่ 30 กันยายนนี้ จะมีศธภ. เกษียณฯอีก 2 รายคือ นายประสิทธิ เขียวศรี ศธภ.8 ชลบุรี และนายพงษ์พิศาล ชินสำราญ ศธภ.13 นครราชสีมา เท่ากับว่า ขณะนี้ศธภ. จะว่าง รวม 7 ตำแหน่ง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยปีนี้จะมีข้าราชการระดับ 11 คือ ปลัดศธ. เกษียณฯ 1 ตำแหน่ง ระดับ 10 เกษียณ 3 ตำแหน่ง คือ ผู้ตรวจราชการ 1 ตำแหน่ง และศธภ. 2 ตำแหน่ง เท่ากับว่า จะต้องมีการแต่งตั้ง ข้าราชการระดับ 10 รวม 4 ราย เพราะจะต้องมีผู้ได้เลื่อนเป็นระดับ 11 จำนวน 1 ราย ขณะเดียวกันจะต้องมีการแต่งตั้งรองเลขาธิการในแต่ละแท่งโดยภายในสัปดาห์นี้ตนจะตั้งกรรมการคัดเลือกในหน่วยงานต่าง ๆ และรองศธภ.ขึ้น และคาดว่าจะได้ดำเนินการคัดเลือกในเดือนธันวาคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้มีกระแสข่าว ว่า จะมีการย้ายข้าราชการระดับ 11 ไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ยอมให้มีการแทรกแซงการทำงาน
