นายนิยม ไผ่โสภา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต1 (สพม.กท.1)เปิดเผยว่า ขณะนี้ ในพื้นที่ สพม.กท.1 เกิดปรากฏการณ์จำนวนนักเรียนลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะโรงเรียนที่เคยมีนักเรียน 2,000-3,000 คน ตอนนี้มีนักเรียนเหลือเพียง 200-300 คน ซึ่งมีประมาณ 25 โรง และยังว่ามีเด็กที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ทั่วประเทศประมาณ 4 ล้านคน จากตัวเลขดังกล่าวบวกกับจำนวนนักเรียนที่หลุดจากระบบการศึกษา ในช่วงระยะการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในเวลา 2 ปีนี้ ตนจึงได้ใช้แนวทางการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กและโรงเรียนที่มีโอกาสถูกยุบเข้าไปแก้ปัญหา โดยการสร้างจุดเด่น เน้นเครือข่าย ใช้ไอซีที มีแหล่งเรียนรู้ บูรณาการประสาน 10 ทิศ รวมถึงทำโรงเรียนคู่พัฒนา เช่น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา คู่กับ โรงเรียนมักกะสันพิทยา โรงเรียนเทพศิรินทร์ คู่กับ โรงเรียนวัดสระเกศ และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย คู่กับ โรงเรียนวัดสังเวช
“จากการลงพื้นที่ทำให้เห็นปัญหาที่หลากหลาย เช่นโรงเรียนพิทยาลงกรณ์ พิทยาคม อยู่ที่ชายทะเลบางขุนเทียน ซึ่งผมไม่เคยคิดว่าในกรุงเทพมหานครจะมีพื้นที่ ที่เดินทางได้เฉพาะทางเรือเท่านั้น เวลาน้ำลดเด็กจะมาโรงเรียนไม่ได้ หรือช่วงเย็นเวลาน้ำลดก็ไม่สามารถกลับบ้านได้ ผมจึงแนะนำให้โรงเรียนปรับวิธีเรียนเปลี่ยนวิธีสอน ปรับหลักสูตรให้ตรงกับบริบทของพื้นที่ เช่น พื้นที่นี้ครอบครัวส่วนใหญ่มีอาชีพทางการประมงก็ให้ปรับหลักสูตรเป็นอุตสาหกรรมประมงท่องเที่ยว แล้วใช้ไอซีทีลงไปช่วยสอน และปรับวิธีการให้คะแนนจากความเชี่ยวชาญของเด็ก และที่โรงเรียนมักกะสันพิทยา พบว่ามีเด็กเก่งกีฬา เรา ก็หาที่พักและจัดทุนการศึกษาให้ ซึ่งจะสามารถเป็นต้นแบบการจัดการศึกษาในอนาคตได้ เป็นการจัดการศึกษาที่คำนึงถึงสมรรถนะ ไม่เน้นวิชาการ แต่เน้นเติมเต็มตามศักยภาพของเด็กเพื่อการมีงานทำ”ผอ.สพม.กท.1 กล่าว
