เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2565 ที่ อาคารเอ็ม ทาวเวอร์ ชั้น8 บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) ร่วมกับกลุ่มบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อร่วมกันพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาในโครงการ “อาชีวะ พัฒนาพลังงานยั่งยืน”  โดย ดร.สุเทพ  แก่งสันเทียะ  เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.)กล่าวว่า สอศ.มีภารกิจหลักด้านการจัดการอาชีวศึกษาที่มุ่งเน้นความเป็นเลิศด้านวิชาชีพ เน้นการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง ส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษาเข้าสู่ตลาดแรงงานเมื่อจบการศึกษา และมีรายได้ระหว่างเรียน ซึ่งการลงนามครั้งนี้นับว่าสอดคล้องกับนโยบายกระทรวงศึกษาธิการอย่างยิ่งที่ต้องการให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการอาชีวศึกษา ดังนั้น การได้ดำเนินโครงการความร่วมมือกับกลุ่มบริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมพลังงาน ที่มีความหลากหลายไม่ว่าปิโตรเลียม พลังงานไฟฟ้า พลังงานทดแทน พลังงานสะอาด ฯลฯ รวมถึงภาคธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีการบริหารจัดการและมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อการพัฒนากำลังคนระดับอาชีวศึกษาให้มีความรู้ความสามารถตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานได้ โดยการทำความร่วมมือกันในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนานักศึกษาอาชีวศึกษา เพิ่มพูนความรู้ และเพิ่มทักษะความสามารถในการประกอบอาชีพ ให้รองรับความต้องการตำแหน่งงานต่าง ๆ ในกลุ่มบางจาก ทั้งในธุรกิจหลักปัจจุบันที่ยังขาดแคลนบุคลากร เช่น ผู้ช่วยผู้จัดการ ผู้จัดการหน้าลาน พนักงานแคชเชียร์ พนักงานชงกาแฟในสถานีบริการน้ำมันบางจาก และร้านกาแฟอินทนิล และธุรกิจที่กำลังมีการขยายงาน เช่นช่างเทคนิค ช่างซ่อมบำรุง ในธุรกิจแพลตฟอร์มให้บริการรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และธุรกิจติดตั้งโซลาร์เซลล์ ตลอดจนพัฒนาครู บุคลากรในสถานศึกษา และร่วมพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน รวมถึงศูนย์เรียนรู้พัฒนาอาชีพ ให้นักศึกษามีทักษะความสามารถ รองรับการประกอบอาชีพในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดและธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยความร่วมมือมีระยะเวลา 2 ปี

นายชัยวัฒน์  โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า  กลุ่มบางจากฯ ในฐานะผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยนวัตกรรมสีเขียวเพื่อความยั่งยืน เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาวะโลกร้อนมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการประกาศเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปีพ.ศ. 2593 โดยมีเป้าหมายแรก คือ ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปีพ.ศ. 2573 จึงมุ่งมั่นขยายสู่ธุรกิจพลังงานสะอาดและธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งในปัจจุบันและอนาคตอีกมาก เพื่อร่วมสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนให้กับประเทศ โดยตระหนักดีว่า ทรัพยากรมนุษย์เป็นหนึ่งในทรัพยากรที่มีบทบาทสาคัญต่อรากฐานทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมพลังงานสะอาดให้มีเพียงพอต่อความต้องการของประเทศ ซึ่งต้องอาศัยทั้งนวัตกรรมและกำลังคนที่มีความสามารถพร้อมด้วยองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะกำลังสำคัญ อย่างนักเรียนอาชีวศึกษาในสายงานช่างเทคนิคด้านมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ช่างเทคนิคด้านโซลาร์เซลล์ เพื่อผลิตบุคลากรในระดับช่างฝีมือ ช่างเทคนิค และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี รวมไปถึง บุคลากรด้านงานบริการ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งประเภทธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยสถานีบริการน้ำมันบางจาก Greenovative Destination ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการทุก generation กว่า 1,300 แห่งทั่วประเทศ และร้านกาแฟอินทนิล แบรนด์กาแฟรักษ์โลก ที่จะมีสาขากว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศในสิ้นปีนี้ เปิดกว้างพร้อมร่วมงานกับบุคลากรคุณภาพอย่างกลุ่มนักเรียนอาชีวศึกษา ที่มีความถนัดด้านงานบริการให้ได้มีประสบการณ์ฝึกฝนวิชาชีพผ่านการปฏิบัติงานจริงในตำแหน่งต่าง ๆ อย่าง ผู้ช่วยผู้จัดการหน้าลาน บาริสต้าชงกาแฟ และพนักงานแคชเชียร์ เป็นต้น โดยกลุ่มบางจากฯ จะสนับสนุนค่าตอบแทนตามเหมาะสม พร้อมทั้งร่วมพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน และจัดตั้งร้านกาแฟอินทนิล สำหรับใช้เป็นศูนย์การเรียนรู้นอกห้องเรียนในวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อร่วมกันสร้างโอกาสให้กับเยาวชน ยกระดับคุณภาพและมาตรฐานกำลังคนสายอาชีพให้มีความสามารถในหลากหลายศาสตร์ตอบสนองต่อความต้องการของประเทศ

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments