เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 ที่ ห้องประชุมศาสตราจารย์หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ชั้น 3 อาคารรัชมังคลาภิเษก กระทรวงศึกษาธิการ ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.) นายวีระ โอวริทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่สายงานทรัพยากรมนุษย์ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ และกรรมการผู้จัดการบริษัทแหลมเจริญซีฟู้ดจำกัด (LCS) พร้อมด้วย นางสิริรัตน์ มุขขุนทศ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายสรรหาว่าจ้างสาขา ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมดำเนินการ “ห้องเรียนรู้และปฏิบัติการวิชาชีพ THAILAND 4.0” และจัดการเรียนการสอนทวิภาคีสาขาอาหารและโภชนาการ โลจิสติกส์ และสาขาที่เกี่ยวข้อง
ดร.สุเทพ กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านร้านอาหารและภัตตาคาร และธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง ที่ให้การสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี การฝึกงาน และการสร้างรายได้ระหว่างเรียน ให้แก่นักเรียน นักศึกษา ที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานตามนโยบายประเทศในการร่วมผลิตและพัฒนากำลังคนสายอาชีพ ให้มีความรู้ ความสามารถและทักษะประสบการณ์ในอาชีพ และเปิดโอกาสให้ นักเรียน นักศึกษาได้เข้าฝึกงาน ฝึกอาชีพในหน่วยงานต่างๆ ของบริษัท และการสนับสนุนจัดทำโครงการจัดสร้างห้องเรียนรู้และปฏิบัติการวิชาชีพ THAILAND 4.0 ในสถานศึกษาที่สมัครใจและมีความพร้อมในการจัดทำห้องเรียนตามเกณฑ์ของบริษัทฯ เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยี และนวัตกรรมให้นักศึกษาและครูผู้สอน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการศึกษาทางสายวิชาชีพให้มีศักยภาพนำไปสู่การผลิตและพัฒนากำลังคนที่มีคุณภาพ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ
“สอศ. และ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านอาหารและภัตตาคาร และมีสาขาวิชาชีพอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอีกหลายอาชีพ มีความร่วมมือในการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ในสาขาวิชา อาหารและโภชนาการ ธุรกิจค้าปลีก การตลาด ช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ โลจิสติกส์ คอมพิวเตอร์ธุรกิจ และฝึกปฏิบัติงานวิชาชีพ (ฝึกงาน) ในทุกสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ระดับ ปวช. ปวส. และปริญญาตรี มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ พ.ศ. 2547 ถึงปัจจุบัน จำนวน 18 ปี โดยความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นส่วนขยายโดยให้สถานศึกษาจัดทำโครงการ “ห้องเรียนรู้และปฏิบัติการวิชาชีพ THAILAND 4.0” โดยเพื่อใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนตามสาขาวิชาที่สถานศึกษาต้องการ อย่างไรก็ตาม ในอนาคตผมต้องการให้บริษัท เอ็มเคฯและบริษัทในเครือเพิ่มสาขาวิชาในระบบทวิภาคีมากขึ้น เช่น สาขาช่างยนต์ สาขาอุตสาหกรรมเกษตร สาขาเกษตรอุตสาหกรรม เป็นต้น เพื่อให้สามารถนักศึกษาเข้าไปฝึกงานได้มากขึ้น”เลขาธิการ กอศ.กล่าว
ด้านนายวีระ โอวริทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่สายงานทรัพยากรมนุษย์ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้จัดทำโครงการ “ห้องเรียนรู้และปฏิบัติการวิชาชีพ THAILAND 4.0” โดยได้พิจารณาคัดเลือกสถานศึกษาสังกัด สอศ. ให้เข้าร่วมโครงการจำนวน 50 แห่ง ได้แก่ สถานศึกษาของรัฐ 39 แห่ง และสถานศึกษาเอกชน 11 แห่ง ซึ่งเป็นสถานศึกษาที่มีความพร้อมตามเกณฑ์ของบริษัทฯ เช่น สถานที่ สาขาวิชา จำนวนผู้เรียนที่เคยเข้าฝึกงาน ฝึกอาชีพ กับ บริษัท และสำเร็จการศึกษาตามจำนวนที่เหมาะสม โดยบริษัทฯ จะสนับสนุน “ห้องเรียนรู้และปฏิบัติการวิชาชีพ THAILAND 4.0” ให้สถานศึกษาที่สามารถทำได้ตามเกณฑ์ของบริษัทฯ สถานศึกษาละ 1 ห้อง เป็นงบประมาณห้องเรียนรู้ละ 400,000 บาท ซึ่งเป็นห้องเรียนตามสาขาวิชาที่สถานศึกษาต้องการ ส่วนจะเพิ่มสาขาวิชาระบบทวิภาคีมากขึ้นนั้น เรื่องนี้ต้องไปหารือกันอีกครั้ง