สอบไม่ได้ไม่ต้องกังวล  สพฐ.ยืนยันทุกคนมีที่เรียน  

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 ดร.อัมพร  พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า จากการเปิดรับสมัครนักเรียน ปีการศึกษา 2565 ของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) นั้น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.) ทั่วประเทศได้รายงานข้อมูลเข้ามาแล้วว่า ในส่วนของโรงเรียนวัตถุประสงค์พิเศษ และโรงเรียนที่จัดโครงการห้องเรียนพิเศษ ซึ่งเปิดสอบคัดเลือกจำนวน 317 แห่ง  จัดสอบคัดเลือกระหว่างวันที่ 5-7 มีนาคม 2565   รับจำนวนทั้งสิ้น 52,728  คน  สมัคร 124,478  คน  พบว่า มีเด็กกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 เข้าสอบจำนวน 1,180 คน  ติดเชื้อ 1,205 คน  ขาดสอบรวม 13,974 คน   โดยเป็นโรงเรียนที่เปิดสอบห้องเรียนพิเศษ เฉพาะ ม.1 จำนวน 61 ยื รับ 4,147 คน  สมัคร 9,265 คน  กลุ่มเสี่ยง 66 คน ติดเชื้อ 104  คน ขาดสอบ 1,060 คน  โรงเรียนที่สอบเฉพาะ ม.4 จำนวน 23 แห่ง  รับ 2,950 คน  สมัคร 4,397 คน กลุ่มเสี่ยง 25 คน ติดเชื้อ 32 คน ขาดสอบ 319 คน และโรงเรียนที่เปิดสอบทั้ง ม.1 และม.4  จำนวน 233 แห่ง  รับ 45,631 คน  สมัคร 110,816 คน  กลุ่มเสี่ยง 1,089 คน ติดเชื้อ 1,069  คน  ขาดสอบ 12,595  คน ทั้งนี้ กำหนดให้ประกาศผลสอบ มอบตัวและรายงานตัวภายในวันที่ 26 มีนาคม 2565

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับการรับสมัครนักเรียนห้องเรียนปกติ ชั้น ม.1 ซึ่งรับสมัครวันที่ 9-13 มีนาคม สอบวันที่ 26 มีนาคม ประกาศผลและรายงานตัววันที่ 30 มีนาคม มอบตัว 2 เมษายน นั้น ภาพรวมทั่วประเทศ ชั้น ม.1 มีโรงเรียนที่เปิดรับสมัครและเปิดสอบจำนวน  608  โรง  รับ 134,406 คน สมัคร 212,224 คน  ส่วนชั้น ม.4 สอบวันที่ 27 มีนาคม ประกาศผลและรายงานตัว 31 มีนาคม มอบตัว 3 เมษายน  มีโรงเรียนที่เปิดรับสมัครและเปิดสอบคัดเลือก 476 โรง รับ 138,840 ราย สมัคร 207,875 ราย

ด้าน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า สพฐ.ได้กำชับโรงเรียนให้จัดสอบตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และต้องเปิดโอกาสให้กับเด็กกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มที่ติดเชื้อโควิด-19 ได้มีโอกาสเข้าสอบ สำหรับนักเรียนที่สอบไม่ติดในโรงเรียนที่สมัครก็ไม่ต้องกังวล ยังมีโรงเรียนที่ยังรับเด็กไม่เต็มอีกจำนวนมาก เพราะส่วนใหญ่จะแห่ไปสมัครโรงเรียนดังที่มีอัตราการแข่งขันสูง  โดยหลังการประกาศผลสอบหากเด็กไม่สามารถสอบเข้าเรียนในโรงเรียนที่สมัครได้ ก็สามารถยื่นความจำนงหาที่เรียนที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.)ได้ จากเดิมที่ต้องยื่นที่โรงเรียน เพื่อให้เขตพื้นที่ฯจัดสรรที่เรียนให้ เนื่องจากเขตพื้นที่ฯจะมีข้อมูลโรงเรียนที่ยังมีที่นั่งว่างในพื้นที่อยู่ ซึ่งขั้นตอนนี้ผู้ปกครองสามารถเลือกที่เรียนใกล้บ้านหรือที่เรียนที่เหมาะสมให้ลูกหลานได้  ทั้งนี้ สพฐ.ยืนยันว่าเด็กทุกคนมีที่เรียนแน่นอน