ตามที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมกัญชาทางการแพทย์ โดยได้ดำเนินการปลดพืชกัญชา กัญชงออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข และขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการเสนอร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ… เข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเป็นกฎหมายกำหนดแนวทางปฏิบัติภายหลังกัญชา กัญชง ไม่อยู่ในบัญชียาเสพติดให้โทษแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2565 ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ กรุงเทพฯ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ได้จัดการประชุมเชิงวิชาการเรื่อง “ทิศทางการจัดการศึกษากัญชาและกัญชงตามกฎหมายใหม่” โดย ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การประชุมวันนี้จัดขึ้นเพื่อทำความเข้าใจที่ถูกต้องในการเรียนรู้ การรับรู้ และปรับแนวคิดการนำพืชกัญชาและกัญชงมาใช้ประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน ไม่เฉพาะทางการแพทย์เท่านั้นแต่ยังเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องสำอาง เป็นต้น รวมถึงมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการจัดการศึกษากัญชาและกัญชงให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่ และให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงโดยเน้นให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด
ดร.ปรเมศวร์ ศิริรัตน์ รองเลขาธิการ กศน.กล่าวว่า จากนโยบายรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับเรื่องกัญชา สำนักงาน กศน.ได้มอบหมายให้ สำนักงาน กศน.กรุงเทพมหานคร ไปดูแลเรื่องการพัฒนาหลักสูตร “กัญชาและกัญชงศึกษา เพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด” เพื่อเป็นวิชาเลือกให้นักศึกษาได้ลงทะเบียน ซึ่งได้มีการทดลองใช้ที่ กศน.กทม. และได้ขยายผลไปยัง กศน.ทั่วประเทศแล้ว ปรากฏว่า มีนักศึกษาสนใจลงทะเบียนเรียนถึงกว่า 2 แสนคน ทาง สำนักงาน กศน.จึงได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่ที่กำลังจะออกมาในเร็ว ๆ นี้ ขณะเดียวกันก็เป็นการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการดำเนินการเรื่องกัญชาด้วย
ด้าน นางรัชนุช สละโวหาร ผอ.สำนักงาน กศน.กทม. กล่าวว่า ดร.กนกวรรณ ต้องการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์จากพืชกัญชาและกัญชง ตามนโยบายรัฐบาลจึงได้มอบหมายให้ สำนักงาน กศน.กทม. จัดกิจกรรมการศึกษาให้ประชาชน โดยจัดทำหลักสูตรรายวิชาเลือกเสรี “กัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด” ในระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย และในภาคเรียนนี้ได้จัดทำหลักสูตรรายวิชาเลือกเสรีเพิ่มเติมในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น พร้อมทั้งกัญชาและกัญชงเพื่อโภชนาการ ขับเคลื่อนงานการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับกัญชาและกัญชง นำไปสู่ความรู้ ความเข้าใจอย่างถูกต้องให้กับ ผู้เรียน ประชาชน และภาคีเครือข่ายต่อไป