เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่กระทรวงศึกษาธิการ สมาคมผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.)จังหวัด นำโดย  นายอาทิตย์ จำปาถิ่น ผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัดราชบุรี นายกสมาคมผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัด พร้อมกับตัวแทนผู้อำนวยการ สกสค.จังหวัดทั้ง 4 ภูมิภาค ได้เข้าพบ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาและการประกันเงินกู้โครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ที่ได้รับฟังข้อมูลปัญหาจากครูและบุคลากรทางการศึกษา ทั้งนี้ นายอาทิตย์ กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าครูมีหนี้ก้อนโตเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็รู้กันดีว่าแหล่งที่ครูเป็นหนี้ก็คือสหกรณ์ออมทรัพย์ครู และธนาคารออมสิน ซึ่งมีอยู่ 4 แสนกว่าบัญชี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือมูลหนี้ และอัตราดอกเบี้ย และการประกันชีวิตที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง จึงอยากให้สำนักงาน สกสค.มาช่วยแก้ไขปัญหาในจุดนี้ได้บ้าง นอกจากนี้ ธนาคารออมสิน ยังได้ปล่อยเงินกู้ให้บางสหกรณ์ออมทรัพย์ครูในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาท และสหกรณ์ฯก็มาปล่อยเงินให้ครูกู้ต่อในอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า ดังนั้นจึงอยากให้รมว.ศึกษาธิการช่วยเจรจากับธนาคารออมสินช่วยลดดอกเบี้ยให้ครูโดยตรงโดยไม่ต้องผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์ครูได้หรือไม่

นายอาทิตย์ กล่าวต่อไปว่า เรื่องการประกันชีวิตสินเชื่อเงินกู้โครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำประกันชีวิตกับบริษัททิพยประกันภัย ค่าเบี้ยประกันตามเงื่อนไขเดิม ไม่กำหนดอายุ 100,000 บาท อัตราเบี้ยประกันร้อยละ 620 บาท ต่อปี  .แต่หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข บริษัททิพยประกันภัยได้กำหนดอายุ ถ้าไม่เกิน 65 ปี อัตราเบี้ยประกันแสนละ 840 ต่อปี และคนที่อายุเกิน 65 ปี ไม่เกิน 74 ปี 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1,176 บาท ซึ่งอัตราดอกเบี้ยสูงมาก บางคนกู้ได้ 3 ล้านบาท อายุไม่เกิน 65 ปี เดิมเสียเบี้ยประกันปีละ 18,600 บาทต่อแสนต่อปี  ตอนนี้ต้องเสียเบี้ยประกันถึง 25,200 บาทต่อแสนต่อปี เพิ่มขึ้นถึง 89% ซึ่งก็เหมือนสร้างหนี้ให้ครูเพิ่มขึ้น ถ้าไม่ต่อประกันชีวิต ธนาคารออมสินก็ไปบวกเป็นเงินต้น และตอนนี้ครูก็ไม่มีปัญญาไปชำระเบี้ยประกันแล้ว จึงอยากให้ รมว.ศึกษาธิการ ช่วยเจรจากับธนาคารออมสินด้วย เพราะเป็นความทุกข์ของครูในขณะนี้

น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า ​ ปัญหาหนี้สินครูถือเป็นหนี้ก้อนใหญ่ เป็นปัญหาที่ท้าทาย แต่มีความตั้งใจที่จะแก้ไข ประกอบกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางแก้ไขและลดหนี้ครัวเรือนด้วย ตนเห็นว่าที่ผ่านมาครูทุ่มเทกับการทำงานมาทั้งชีวิต แต่เมื่อมีปัญหาหนี้สิน ขวัญกำลังใจก็หายไป ดังนั้นเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่เร่งด่วนต้องแก้ไขโดยเร็ว อย่างไรก็ตามปัญหาหนี้สินครูถือเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อน ซึ่งตนพร้อมที่จะรับฟังและแก้ไขปัญหา จึงได้มอบหมายให้นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)รักษาการตำแหน่งเลขาธิการ สกสค. รับฟังปัญหาเพื่อหาแนวทางที่เป็นประโยชน์ และคุ้มค่าที่สุดสำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษา และเสนอให้คณะกรรมการ สกสค.พิจารณาต่อไป

นายพิเชฐ กล่าวว่า หลังจากนี้ตนจะไปศึกษาข้อมูล พร้อมกับประชุมผู้บริหาร โดยนำปัญหาทั้งหมดมาวิเคราะห์ร่วมกันว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้อย่างไรบ้าง ซึ่งน.ส.ตรีนุช เน้นย้ำว่าการทำงานต่างๆ ต้องรวดเร็ว เพื่อที่จะสร้างขวัญกำลังใจให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาต่อไป ทั้งนี้ตนจะเร่งรวบรวมข้อมูล และเสนอให้คณะกรรมการ สกสค.พิจารณาโดยเร็ว

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments