เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้ ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ประชุมได้รับหลักการเพิ่มเงินอุดหนุนนักเรียนพิการของโรงเรียนเอกชน ทั้งสายสามัญและสายอาชีพ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยเรื่องนี้ ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ เป็นผู้รับผิดชอบ นอกจากนี้ ครม.ยังได้เห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารพิเศษทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ.2564-2580 เพื่อเป็นแผนการบูรณาการพัฒนาเด็กที่มีความสามารถพิเศษที่หน่วยงานต่าง ๆ ดูแลให้มีความเป็นเอกภาพ ตั้งแต่ระดับปฐมวัยถึงอุดมศึกษา ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในความรับผิดชอบของคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ
ส่วนกรณีครูอัตราจ้างของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ปี 2553-2555 ซึ่งมีการจ้างนักศึกษาที่จบการศึกษาแล้วมาเป็นครูอัตราจ้างสัญญา 3 ปี แต่เมื่อครบกำหนด 3 ปีแล้ว สพฐ.ได้ใช้งบฯของ สพฐ.เองจ้างต่อ จนถึงเวลานี้มีจำนวนครูอัตราจ้างกว่า 67,000 คน ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า สพฐ.ไม่มีงบฯจ้างแล้ว ทำให้เดือนมีนาคมนี้ครูอัตราจ้างกลุ่มนี้อาจไม่ได้รับเงินเดือน นั้น รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการได้ขอใช้งบฯกลาง 3,200 ล้านบาท เพื่อมาจ่ายเป็นเงินเดือนครูอัตราจ้างกลุ่มนี้ โดยขณะนี้เรื่องไปถึงสำนักงบประมาณแล้ว ซึ่งตนก็กำลังเร่งติดตามอยู่ คิดว่าไม่น่ามีปัญหา ขอให้ครูไม่ต้องเป็นกังวล เพราะนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับครูและเป็นห่วงครูมาก
ดร.กนกวรรณ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ครม.เห็นความสำคัญของเด็กพิการ ซึ่งตนผลักดันเรื่องนี้มาตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งรมช.ศึกษาธิการ การที่ ครม.รับหลักการในวันนี้ จะทำให้เด็กพิการของโรงเรียนเอกชนทั้งสายสามัญและอาชีวะได้รับการดูแลมากขึ้น อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ตนจะเร่งให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำรวจจำนวนนักเรียนพิการเพื่อเป็นข้อมูลเสนอตั้งงบประมาณปี 2566 ต่อไป