นางปราณี ศิวารมณ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ( ก.ค.ศ.) กล่าวว่า ตามที่ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ กฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยอำนาจการลงโทษภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือ ลดเงินเดือน พ.ศ. 2561 นั้น กฎ ก.ค.ศ.ดังกล่าวออกมาเพื่อให้มีความสอดคล้องกับระบบเงินเดือนของข้าราชการครูฯที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นระบบเปอร์เซ็นต์ จากเดิมที่ใช้แบบขั้น โดยในส่วนของโทษและการลงโทษจะเหมือนกับที่ผ่านมา แต่การปรับครั้งนี้จะมีการเพิ่มผู้ที่มีอำนาจในการลงโทษ คือ ศึกษาธิการภาค(ศธภ.) และศึกษาธิการจังหวัด(ศธจ.) ซึ่งเป็น 2 ตำแหน่งใหม่ที่เพิ่มเข้าไป และสามารถลงโทษได้เฉพาะข้าราชการที่อยู่ใต้บังคับบัญชาภายในสำนักงานเท่านั้น
นางปราณี กล่าวต่อไปว่า สำหรับการลงโทษยังคงเป็นการลงโทษภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน หรือลดขั้นเงินเดือนเหมือนเดิม แต่อัตราจะเปลี่ยนไป เช่น โทษการตัดเงินเดือนที่เดิมตัดร้อยละ 5 เป็นเวลา 1-2 เดือน ปรับเป็นตัดเงินเดือนร้อยละ 2 หรือ 4 เป็นเวลา 1-3 เดือน ส่วนโทษลดเงินเดือนเดิมกำหนดให้ลด 1 หรือ 2 ขั้น ก็ปรับเป็นลดเงินเดือนร้อยละ 2 หรือ 4 ของอัตราเงินเดือนที่ได้รับอยู่ โดยการลงโทษทั้ง 2 รูปแบบจะใช้อำนาจตามดุลพินิจของผู้บังคับบัญชาอิงตามความร้ายแรงแห่งพฤติการณ์การกระทำความผิด
“การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้การลงโทษมีระดับของการใช้ดุลพินิจสอดคล้องเหมาะสมกับพฤติการณ์การกระทำผิดมากขึ้น อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่สามารถใช้โทษลดเงินเดือนในส่วนของการลดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ ให้ลดตามขั้นไปก่อน เนื่องจากร่างกฏ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อนที่จะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อร่างกฎ ก.ค.ศ.ฉบับนี้ประกาศใช้แล้วก็ให้ใช้ในรูปแบบเปอร์เซ็นต์ได้”รองเลขาธิการ ก.ค.ศ.กล่าว