ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2561 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รับงบประมาณจัดซื้อโต๊ะเก้าอี้นักเรียน จำนวน 183 ล้านบาท แต่เนื่องจากงบฯที่ได้รับมาไม่มีรายชื่อโรงเรียนที่จะได้รับการจัดสรรโต๊ะเก้าอี้ ประกอบกับ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ มีนโยบายลดภาระงานของครู และ นโยบายป้องกันการทุจริต ดังนั้น สพฐ.จึงได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการจัดสรรงบฯให้โรงเรียน 3 กลุ่ม คือ 1.โรงเรียนที่ได้รับอาคารเรียนแล้วแต่ถูกปรับลดโต๊ะเก้าอี้ลง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล จึงต้องจัดสรรงบฯเพื่อสร้างอาคารเรียนไปก่อน 2.โรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้น ซึ่ง สพฐ.จะยึดข้อมูล ณ วันที่ 10 มิ.ย.2561 และ3.โรงเรียนที่มีการจำหน่ายครุภัณฑ์ออกจากระบบทะเบียน โดยผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการของสถานศึกษาอย่างถูกต้อง ซึ่งจากการสำรวจความต้องการโต๊ะเก้าอี้ของโรงเรียนทั่วประเทศตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวแล้ว พบว่า มีโรงเรียนที่ผ่านการพิจารณาจำนวน 7,748 โรง เป็นเงินกว่า 170 ล้านบาท ส่วนงบฯที่เหลือก็จะส่งคืนสำนักงบประมาณ
เลขาธิการกพฐ. กล่าวว่าสำหรับการจัดซื้อในปี 2561นี้จะมอบให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) เป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อรวมผ่านระบบการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์หรือ e-bidding โดยจะโอนงบฯไปให้ภายในวันนี้ซึ่งตามระเบียบกำหนดว่าการจัดซื้อต่ำกว่า 5 แสนบาทไม่ต้องจัดซื้อผ่านระบบอีบิดดิ้งแต่ในการจัดซื้อครั้งนี้สพฐ.มีหนังสือสั่งการชัดเจนว่าให้ทุกสพท.จัดซื้อผ่านระบบอีบิดดิ้งทั้งหมดเพื่อเปิดให้มีการแข่งขันกันอย่างเป็นธรรมโดยต้องได้ของที่ถูกต้องตามสเปกและราคาถูกเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการบริหารงบประมาณของทางราชการทั้งนี้จากข้อมูลพบว่ามี 23 บริษัทที่มีคุณสมบัติได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) สามารถเข้าแข่งขันในระบบอีบิดดิ้งได้แม้ปีนี้การจัดซื้อโต๊ะเก้าอี้อาจจะล่าช้าไปบ้างแต่ก็ยังดำเนินการได้ทันผ่านระบบที่ถือว่าดีที่สุดโดยการดำเนินการจะต้องแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้
“ ขณะนี้มีผอ.สพท.และผอ.สถานศึกษาเป็นห่วงโดยหลายคนได้ส่งข่าวมายังส่วนกลางว่ามีผู้ประกอบการไเข้าไปพูดคุย ที่เรียกว่า ตกเขียวงบฯกับทางโรงเรียนแล้ว ดังนั้น การใช้ระบบอีบิดดิ้งจะสามารถลดปัญหาการทำเรื่องที่ไม่ถูกต้องได้ และในปีงบฯ 2562 นี้การของบฯโต๊ะเก้าอี้ได้ใส่รายชื่อโรงเรียนไปตามคำขอ และพร้อมที่จะจัดสรร ดังนั้น เมื่อได้รับการจัดสรรงบฯมาแล้วหากไม่ซ้ำซ้อนกับสถานศึกษาที่ได้จัดสรรให้ในปี 2561 สพฐ.ก็จะมอบให้ สพท.เป็นผู้จัดซื้อโดยใช้วิธีการอีบิดดิ้งและจัดส่งไปยังสถานศึกษาเช่นเดียวกัน”ดร.บุญรักษ์ กล่าว