เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2564 ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตนได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.)จัดกิจกรรม ศ.ค.ส.ศึกษาธิการส่งความสุขให้น้องปีที่ 3 เพื่อเป็นการส่งมอบความสุขให้แก่พี่น้องประชาชน ภายหลังจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19 ผ่อนคลาย ซึ่งตนได้เริ่มกิจกรรมไปบ้างแล้ว โดยมอบผ้าห่ม ของเด็กเล่น อุปกรณ์การเรียน ให้แก่พี่น้องประชาชนในชุมชนบ้านแม่ลง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ และจะมีการไปมอบในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป ส่วนกรุงเทพฯกำลังหาข้อสรุปว่าจะไปที่ไหน ซึ่งปีนี้อาจจะไม่ได้จัดที่กระทรวงศึกษาธิการเหมือนที่ผ่านมา แต่จะเข้าไปให้ถึงชุมชน เพื่อนำสิ่งของไปมอบให้ถึงมือ โดยขณะนี้ กศน.ต่าง ๆ กำลังระดมรับบริจาคเพื่อนำสิ่งไปส่งต่อให้กับประชาชนต่อไป

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า สำหรับเด็กเร่ร่อน เด็กพิการ ปีนี้จะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ได้มีการปักหมุดเอาไว้ว่าจะต้องลงไปค้นหา และเก็บข้อมูล เพื่อจะได้รู้ว่าจะต้องเติมเต็มในส่วนใดบ้าง แต่ละคนเหมาะสมกับการศึกษารูปแบบใด ใครจำเป็นต้องได้รับการศึกษาแบบเฉพาะบุคคลก็จะจัดให้ ใครสามารถจัดรวมกลุ่มได้ ก็ให้รวมกลุ่ม หรือ ใครต้องการให้เสริมเรื่องของอาชีพก็จะมาดูว่าเหมาะสมกับอาชีพไหน ซึ่งถือเป็นการอุดช่องว่างและเติมเต็มให้แก่เด็กที่หลุดจากระบบการศึกษา หรือคนที่อยู่นอกระบบการศึกษา ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

“ส่วนกรณีเด็กหลุดจากระบบการศึกษาที่อายุเกิน 15ปี ถามว่ากศน.จะรับมาดูแลได้หรือไม่ จริง ๆ กศน.จะรับได้เมื่อเด็กอายุ 18 ปี แต่ถ้าไม่ถึง 18ปี แล้วสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ซึ่งดูแลการศึกษาขั้นพื้นฐาน ยินดีให้เด็กออกมา กศน.ก็พร้อมรับ โดยกศน.ก็ได้มีการอบรมครูมากขึ้นและดูเรื่องอัตรากำลังไว้รองรับแล้ว ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็ได้จัดอบรมพัฒนาทักษะครูกศน.ต้นแบบการสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจร.)และมีวิทยากรจากภายนอก โดยเป็นการอบรมแบบเข้มที่เน้นทักษะการสื่อสารจริง ๆ ให้กับครูกศน.ที่จบเอกอังกฤษมาโดยตรง ซึ่งครูกลุ่มนี้พร้อมที่จะออกไปทำหน้าที่สอนให้นักศึกษาสามารถสื่อสารได้ และขยายผลไปสู่อาชีพของผู้เรียนด้วย เช่น นักศึกษาที่อยู่ในจังหวัดท่องเที่ยวก็สามารถพูดคุยภาษาอังกฤษกับนักท่องเที่ยว ซึ่งก็เป็นอาชีพหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้ให้กับตัวเองและครอบครัวได้ เป็นต้น”ดร.กนกวรรณ กล่าวและว่า สำหรับร่างพ.ร.บ.การศึกษาตลอดชีวิต ที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของรัฐสภานั้น ไม่รู้ว่าจะคลอดในรัฐบาลนี้หรือไม่ แต่ตนจะทำให้ดีที่สุด

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments