นายอดินันท์ ปากบารา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานโครงการศึกษาธิการ (ส่วนหน้า)เคลื่อนที่จังหวัดสตูล พบปะประชาชน ที่โรงเรียนทุ่งหว้าวรวิทย์ จ.สตูล ภายใต้หัวข้อ”สานพลังการศึกษา พัฒนาสตูล” โดยมีหน่วยงานด้านการศึกษาเข้าร่วมโครงการกว่า 20 หน่วยงาน ว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นกิจกรรมการศึกษาที่ช่วยพัฒนาผู้เรียน เปิดโอกาสและเป็นวิธีทางการศึกษาให้นักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเอง ตลอดจนให้สังคมประชาชนผู้ปกครองและหน่วยงานอื่นๆได้มีส่วนร่วมรับรู้ถึงพัฒนาการทางการศึกษาที่เกิดขึ้น
“ รัฐบาลยุคนี้ให้ความสำคัญ ด้านการศึกษาสูงสุดโดยเฉพาะรัชกาลที่ 10 มีพระบรมราโชบายด้านการศึกษา 4 ประการคือ 1.มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ต้องมีความรู้ความเข้าใจที่มีต่อชาติบ้านเมือง ยึดมั่นในศาสนา มั่นคงในสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีความเอื้ออาทรต่อครอบครัวและชุมชนของตน 2.มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม คือให้รู้จักแยกแยะสิ่งที่ผิด-ที่ถูก สิ่งชั่ว-สิ่งดี เพื่อปฏิบัติแต่สิ่งที่ชอบที่ดีงาม ปฏิเสธสิ่งที่ผิดที่ชั่ว เพื่อสร้างคนดีให้แก่บ้านเมือง 3.มีงานทำ มีอาชีพ คือ ต้องให้เด็กรักงาน สู้งาน ทำงานจนสำเร็จ อบรมให้เรียนรู้การทำงาน ให้สามารถเลี้ยงตัวและเลี้ยงครอบครัวได้ และ 4.เป็นพลเมืองดี คือการเป็นพลเมืองดีเป็นหน้าที่ของทุกคน สถานศึกษาและสถานประกอบการต้องส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสทำหน้าที่พลเมืองดี ซึ่งการเป็นพลเมืองดีหมายถึงการมีน้ำใจ มีความเอื้ออาทร ต้องทำงานอาสาสมัคร งานบำเพ็ญประโยชน์ เห็นอะไรที่จะทำเพื่อบ้านเมืองได้ก็ต้องทำ” นายอดินันท์ กล่าว
นายอดินันท์ กล่าวต่อไปว่า ดังนั้น โรงเรียนจะต้องมีหน้าที่สร้างคนดี ให้มีความเข้มแข็งให้เด็กมีความรู้ ความคิด รู้เทคโนโลยี ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดก็ตามทั้งหมดจะต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน และเคารพศาสนาของกันและกันด้วย
“ รัฐบาลยุคนี้ให้ความสำคัญ ด้านการศึกษาสูงสุดโดยเฉพาะรัชกาลที่ 10 มีพระบรมราโชบายด้านการศึกษา 4 ประการคือ 1.มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง ต้องมีความรู้ความเข้าใจที่มีต่อชาติบ้านเมือง ยึดมั่นในศาสนา มั่นคงในสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีความเอื้ออาทรต่อครอบครัวและชุมชนของตน 2.มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม คือให้รู้จักแยกแยะสิ่งที่ผิด-ที่ถูก สิ่งชั่ว-สิ่งดี เพื่อปฏิบัติแต่สิ่งที่ชอบที่ดีงาม ปฏิเสธสิ่งที่ผิดที่ชั่ว เพื่อสร้างคนดีให้แก่บ้านเมือง 3.มีงานทำ มีอาชีพ คือ ต้องให้เด็กรักงาน สู้งาน ทำงานจนสำเร็จ อบรมให้เรียนรู้การทำงาน ให้สามารถเลี้ยงตัวและเลี้ยงครอบครัวได้ และ 4.เป็นพลเมืองดี คือการเป็นพลเมืองดีเป็นหน้าที่ของทุกคน สถานศึกษาและสถานประกอบการต้องส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสทำหน้าที่พลเมืองดี ซึ่งการเป็นพลเมืองดีหมายถึงการมีน้ำใจ มีความเอื้ออาทร ต้องทำงานอาสาสมัคร งานบำเพ็ญประโยชน์ เห็นอะไรที่จะทำเพื่อบ้านเมืองได้ก็ต้องทำ” นายอดินันท์ กล่าว
นายอดินันท์ กล่าวต่อไปว่า ดังนั้น โรงเรียนจะต้องมีหน้าที่สร้างคนดี ให้มีความเข้มแข็งให้เด็กมีความรู้ ความคิด รู้เทคโนโลยี ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดก็ตามทั้งหมดจะต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน และเคารพศาสนาของกันและกันด้วย
นายอรุณ โต๊ะหวันหลง ผู้อำนวยการโรงเรียนทุ่งหว้าวรวิทย์ กล่าวรายงานว่า เพื่อให้หน่วยงานทางการศึกษาในพื้นที่ได้มีโอกาสสำคัญผ่านกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ตามบริบทของพื้นที่ก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา วันนี้ ได้มีหน่วยงานเข้าร่วมทั้งภาครัฐและเอกชนจำนวน 27 หน่วยงาน
โดยในงานมีจัดกิจกรรมประกอบด้วย การแสดงความสามารถของนักเรียนทางด้านดนตรีและการแสดงนิทรรศการแสดงผลงานนักเรียนและครูจำหน่ายสินค้านักเรียน การแสดงเครื่องบินบังคับวิทยุการ การให้บริการประชาชน เช่นการสอนทำขนม การนวดฝ่าเท้า บริการตรวจสุขภาพเบื้องต้น บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถจักรยานยนต์ให้ความรู้เรื่องไฟฟ้า เป็นต้น