เมื่อวันที่ 28 กันยายน น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนให้นักเรียนอายุ12-18 ปี ว่า ขณะนี้ ตนได้รับรายงานเบื้องต้นว่ามีนักเรียน นักศึกษา ทั้งในและนอกสังกัด ศธ. สนใจฉีดวัคซีน ประมาณ 71% และจะทราบจำนวนที่แน่นอนในวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยภาพรวมทุกจังหวัดมีคนสนใจประมาณ 75-80% แต่บางจังหวัดเด็กสนใจฉีดมาก คือ จังหวัดภูเก็ต มีเด็กสนใจฉีดวัคซีนถึง 100% และมีไม่ถึง 10 จังหวัด ที่เด็กสนใจที่จะฉีดวัคซีนต่ำกว่า 50% ซึ่งตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ไปดูว่าสาเหตุที่มีผู้ประสงค์ฉีดวัคซีนน้อยมาจากอะไร และเร่งทำความเข้าใจต่อไป
“สาเหตุที่บางจังหวัดมีคนสนใจน้อย อาจมาจาก ศธ.มีเวลาสร้างความเข้าใจน้อย เพราะมีเวลาแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้นในการสร้างความเข้าใจ อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนจะใช้โรงเรียนเป็นฐาน โดยเน้นว่าเด็กอยู่ที่ไหน ต้องได้ฉีดที่นั่น ทั้งนี้ ศธ.มีแผนสำรองรับมือเช่นกัน หากเริ่มฉีดวัคซีนวันที่ 4 ตุลาคม แล้วมีผู้ปกครองที่ไม่ประสงค์ให้ลูกฉีดวัคซีนเกิดเปลี่ยนใจ จะมีการวางแผนกันอย่างไร เป็นต้น”รมว.ศึกษาธิการ กล่าว
ด้านดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ขณะนี้ ตัวเลขนักเรียนทุกสังกัดทั้งในและนอกศธ.ที่จะได้ฉีดวัคซีนมีทั้งหมด 5,048,081 คน จากข้อมูล ณ วันที่ 27 กันยายน พบว่ามีนักเรียน นักศึกษา ที่ประสงค์รับวัคซีน 3,618,166 คน คิดเป็นร้อยละ 71.67 ซึ่งตรงกับเป้าหมายของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (ศบค.) แต่ทั้งนี้ ยอดนักเรียน นักศึกษาที่ประสงค์ฉีด เป็นเพียงยอดเบื้องต้นเท่านั้น เพราะมีบางจังหวัดที่ยังไม่รายงานเข้ามา เช่นจังหวัดมหาสารคาม แต่เบื้องต้น ศธ.จะส่งยอดนักเรียนที่ประสงค์ฉีดวัคซีนไปให้ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ดำเนินการจัดสรรวัคซีนให้นักเรียนก่อน ซึ่งวัคซีนที่เตรียมไว้เพียงพอต่อการฉีดให้นักเรียน นักศึกษาแน่นอน
ปลัดศธ.กล่าวว่า สำหรับนักเรียนที่เรียนนอกพื้นที่ และกลับไปยังภูมิลำเนาขอให้แจ้งพื้นที่ หรือ ที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด เพื่อจะได้รวบรวมรายชื่อส่งกรมควบคุมโรค เพื่อให้กรมควบคุมโรคจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมให้ ส่วนจะฉีดในจังหวัดไหนนั้น สาธารณสุขจังหวัดจะเป็นผู้กำหนดและติดต่อให้เด็กมาฉีดในโรงพยาบาลต่อไป ส่วนนักเรียนที่ผู้ปกครองไม่ประสงค์ให้ฉีดวัคซีนกว่า 1 ล้านคนนั้น หากประสงค์จะฉีดวัคซีนทีหลัง ศธ.ก็จะประสานกรมควบคุมโรคในการจัดสรรควัคซีนให้อีกครั้ง