เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2564 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ  เปิดเผยว่า ขณะนี้ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้จัดทำแผนแก้ปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งระบบ โดยระยะแรกจะดำเนินการ 3 แผนงาน ดังนี้ แผนงานที่ 1.โครงการแก้ปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยใช้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูต้นแบบเป็นฐาน เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูร่วมกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูต้นแบบ จำนวน 12 แห่ง 4 ภาค ๆ ละ 3 แห่ง ทำงานร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐทุกแห่ง และส่วนราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธิการในพื้นที่จังหวัด ภายในเดือนตุลาคมนี้ และขยายผลการดำเนินไปยังสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั่วประเทศที่มีความพร้อม ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564เป็นต้นไป

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า  รูปแบบการดำเนินงานในโครงการดังกล่าว ได้มีการถอดบทเรียนจากสหกรณ์ตัวอย่าง 2 แห่ง คือ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูสมุทรปราการ จำกัด และสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกำแพงเพชร จำกัด ซึ่งพบว่าการดำเนินการของสหกรณ์ทั้งสองแห่งมีแนวทางการแก้ไขปัญหา ดังนี้ 1. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของสหกรณ์ออมทรัพย์ไม่เกิน 3% 2.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สหกรณ์และสถาบันการเงินให้สอดคล้องกับสินเชื่อที่มีอัตราความเสี่ยงต่ำ 4.5-5%  3. จัดสรรผลกำไรมาเพิ่มเงินเฉลี่ยคืนเงินกู้ให้มากขึ้น ไม่น้อยกว่า 30% ของผลกำไร 4. การบริหารความเสี่ยง การลดค่าธรรมเนียมและการค้ำประกันที่ไม่จำเป็น 5. ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูยกเลิกการฟ้องคดี รวมหนี้จากทุกสถาบันการเงินมาไว้ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครู และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ แก่สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ในอัตรา 2.5 % การปรับโครงสร้างหนี้ครูก่อนเกษียณ อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป และลดดอกเบี้ยเงินกู้แก่ครูที่มีอายุ 75 ปีขึ้นไป ตั้งแต่ 0.25-0.50.% ปรับลดการส่งค่าหุ้นรายเดือน 6. จัดทำฐานข้อมูลสมาชิกและการเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับสถาบันการเงิน และต้นสังกัด 7. ร่วมมือกับส่วนราชการต้นสังกัดหัก ณ ที่จ่าย ควบคุมยอดหนี้ไม่ให้เกินความสามารถในการชำระหนี้ของสมาชิกสหกรณ์  จะต้องมีเงินเดือนเหลือไม่น้อยกว่า 30%  8. ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการสร้างระบบพัฒนาและดูแลสมาชิก ให้ความรู้เสริมสร้างวินัยและ การวางแผนทางด้านการเงิน การสร้างอาชีพเสริม ลดรายจ่าย เพิ่มการออม และไม่ก่อหนี้เพิ่ม

น.ส.ตรีนุช กล่าวอีกว่า แผนที่ 2 คณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ อยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาครูรายที่ถูกฟ้อง พร้อมแนวทางการแก้ปัญหาของผู้ค้ำประกัน และการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 โดยให้มีการดำเนินการแก้ปัญหาร่วมกันในระดับพื้นที่จังหวัดในการปรับโครงสร้างหนี้ ระหว่างสหกรณ์ออมทรัพย์ครู สถาบันการเงิน และส่วนราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธิการระดับจังหวัด ขณะที่ แผนงานที่ 3.คือการการจัดอบรมพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา กลุ่มอายุราชการ 1- 5 ปี ให้มีความรู้ทางด้านการวางแผนและการสร้างวินัยทางการเงินและการออม โดยมีเป้าหมายอบรม 1 แสนคนต่อปี โดยเริ่มอบรมรุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 1-15  ตุลาคม 2564  ผ่านระบบออนไลน์ผ่านศูนย์ Deep กระทรวงศึกษาธิการ อย่างไรก็ตาม  ข้อมูลภาพรวมปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา พบว่า ครูฯทั่วประเทศประมาณ 9 แสนคน หรือ  80% มีหนี้รวมกัน 1.4 ล้านล้านบาท โดยเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุด คือ สหกรณ์ออมทรัพย์ครู วงเงิน 8.9 แสนล้านบาท คิดเป็น 64 %รองลงมาคือ ธนาคารออมสิน วงเงิน 3.49 แสนล้านบาท คิดเป็น 25 %

5 1 vote
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments