เมื่อวันที่ 20 กันยาน 2564 ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมฉีดวัคซีนให้นักเรียนอายุ 12-18 ปี ว่า เวลานี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)รอแต่การตอบรับจากผู้ปกครอง ว่าจะอนุญาตให้นักเรียนฉีดหรือไม่ โดยตอนนี้อยู่ในช่วงการรณรงค์ สร้างความเข้าใจกับผู้ปกครองให้เข้าใจว่าการฉีดวัคซีนดีอย่างไร ปลอดภัยอย่างไร และจะเริ่มเปิดให้ยื่นความประสงค์ต่อสถานศึกษา ในวันที่ 21-24 กันยายนนี้ จากนั้นสถานศึกษาจะส่งข้อมูลให้ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ก่อนส่งให้ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) เพื่อจัดส่งให้สาธารณสุขจังหวัดดำเนินการจัดสรรวัคซีนต่อไป โดยวัคซีนที่จะจัดฉีดให้นักเรียนจะเป็นไฟเซอร์แน่นอน เนื่องจากเป็นวัคซีนที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)ให้การรับรอง

ผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีผู้ปกครองไม่ยินยอมให้ลูกหลานฉีดวัคซีน  และเมื่อเปิดเทอมแล้วเด็กที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนจะสามารถเรียนร่วมกับเด็กที่ฉีดวัคซีนได้หรือไม่  เลขาธิการ กพฐ.กล่าวว่า การให้เด็กเรียนออนไซต์ที่โรงเรียนไม่ได้ตั้งเป้าว่า ทุกคนต้องได้รับการฉีดวัคซีนแล้วจึงจะมาเรียนออนไซต์ได้  แต่เวลามาโรงเรียนอาจต้องมีมาตรการดูแลที่แตกต่างกัน หรือแม้แต่ฉีดวัคซีนแล้วหากผู้ปกครองยังไม่มั่นใจ อยากให้เรียนออนไลน์เช่นเดิมก็สามารถทำได้

“ช่วงนี้กระทรวงสารธารณสุขกำลังทำแผนการเปิดเรียนให้อยู่ว่าเปิดอย่างไรถึงจะปลอดภัย เช่น นักเรียนไป-กลับอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยต้องทำอย่างไร พื้นที่ไม่ปลอดภัยต้องทำอย่างไร  เด็กต่อห้องควรมีกี่คน โดย สพฐ.มีหน้าที่ปฏิบัติตามแผนของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด  และจากการหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขก็มีความเห็นตรงกันว่าในแต่ละจังหวัดก็ไม่ควรใช้มาตรการเดียวกันทุกโรงเรียน แต่ควรยึดพื้นที่ตำบล อำเภอ เป็นฐานในการเปิดเทอม ที่สำคัญต้องมีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะด้วย”ดร.อัมพรกล่าว

ด้าน ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เท่าที่ทราบมีผู้ปกครองกว่า 90% ที่ยินดีให้ลูกฉีดวัคซีน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งว่า วัคซีนจะเข้ามาวันที่ 28 กันยายนนี้ ดังนั้นคาดว่านักเรียนกลุ่มเป้าหมาย อายุ 12-18 ปี จะได้รับการฉีดวัคซีนตามวันและเวลาที่กำหนดแน่นอน

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments