เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2564 รศ.ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์ รักษาการประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวภายหลังประชุม กพฐ.ซึ่งเป็นการประชุมนัดสุดท้ายก่อนหมดวาระ ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงเรื่องการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ที่จะเปิดในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้  ถ้าหากกระทรวงศึกษาธิการต้องการเปิดเทอมโดยเร็ว ก็ไม่ควรจะห่วงเรื่องการฉีดวัคซีนในเด็ก แต่ควรจะเร่งฉีดวัคซีนครูให้ครบ 100% เพราะจากสถิติแล้วเด็กมีโอกาสติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19 ต่ำ ซึ่งจากข้อมูลที่พบมีเด็กติดเชื้อประมาณ 140,000 คน เสียชีวิต 13 คน ดังนั้น ครูควรเป็นเป้าหมายหลักของการฉีดวัคซีน โดยให้ฉีดวัคซีนให้กับครูทุกกลุ่มทุกสังกัดด้วย โดยเฉพาะครูชาวต่างชาติ และไม่ควรบังคับให้เปิดเทอม เหมือนกันทั้งประเทศ ควรจะให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) และศบค.จังหวัดพิจารณาว่าการระบาดในพื้นที่เป็นอย่างไร หากในพื้นที่ไม่มีการระบาดแล้ว ก็ควรจะเปิดเทอม 2 เร็วขึ้นได้  หากพื้นที่ไหนยังมีการระบาดอยู่ อาจจะแบ่งกลุ่มมาเรียนในโรงเรียน เช่น ในระดับชั้นประถมศึกษา ให้เป็นกลุ่มมาเรียนในโรงเรียนสัปดาห์ละครั้ง เป็นต้น แม้นักเรียนจะได้มาโรงเรียนสัปดาห์ละครั้งแต่ก็ยังดีกว่าเรียนออนไลน์ 100%

“ตอนนี้ สพฐ.รายงานว่ามีครูได้รับวัคซีนทั่วประเทศ 70% หากครูได้รับวัคซีนครบ 100% ในเดือนตุลาคมนี้ การเปิดเทอมในโรงเรียนก็สามารถทำได้ ส่วนวัคซีนของเด็ก ทราบว่ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะหารือกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อจัดสรรวัคซีนอะไรให้เด็ก โดยการฉีดวัคซีนนั้นต้องได้รับความสมัครใจจากผู้ปกครองด้วย”รศ.ดร.เอกชัย กล่าวและว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือแนวปฏิบัติการควบรวม ยุบ หรือเลิกสถานศึกษาต้องให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) เป็นผู้ดูแล เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปได้อย่างรวดเร็วต่อไป

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest

0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments