เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2564 ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า จากกรณีมีผู้ร้องเรียนว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)ไม่ได้ทำเรื่องขอเงินเยียวยา 2,000 บาท ให้กับ นักศึกษาระดับปริญญาตรีที่ศึกษาอยู่ในสถาบันการอาชีวศึกษา ว่า สอศ.ได้ส่งข้อมูลนักเรียน นักศึกษาในสังกัดสอศ.ทั้งรัฐและเอกชนให้กับโครงการเงินกู้เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และสังคมจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตั้งแต่แรกเริ่มโครงการฯแล้ว โดยระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.) จำนวน 662,389 คน ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) 356,757 คน และปริญญาตรี 10,538 คน รวม 1,029,684 คน ให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) ซึ่ง สป.ศธ. ก็ได้ส่งข้อมูลให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์แล้ว แต่เมื่อสภาพัฒน์ทำเรื่องเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ได้ตีกรอบถึง ปวส.เท่านั้น มติที่ออกมาจึงครอบคลุมการจ่ายถึงระดับ ปวส.
เลขาธิการ กอศ.กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อมติครม.ออกมาเช่นนี้ ตนได้เข้าหารือร่วมกับน.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ และ ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ. ว่าเพื่อหาทางแก้ไขปัญหา เพราะสอศ.ได้รับเงินในส่วนของ นักศึกษาปริญญาตรีมาแล้วแต่มติกลับครอบคลุม ปวส.เท่านั้น ซึ่งน.ส.ตรีนุช ได้มอบหมายให้ดร.สุภัทร ทำหนังสือถือสภาพัฒน์ให้ขยายมติครอบคลุมถึงปริญญาตรีด้วย ซึ่งทราบว่าขณะนี้ ดร.สุภัทร ได้ส่งหนังสือถึงสภาพัฒน์เรียบร้อยแล้ว คาดว่าสภาพัฒน์จะนำเสนอเรื่องนี้ให้ที่ครม.พิจารณาโดยเร็ว
“ผมคิดว่าอาจจะมีการสื่อสารความเข้าใจคลาดเคลื่อน จึงเกิดปัญหานี้ขึ้น ทั้งนี้ขอให้มั่นใจว่า สอศ.ไม่นิ่งนอนใจ และจะ เร่งแก้ไขปัญหาโดยเร็ว ทั้งนี้ผมได้สื่อสารไปยังผู้อำนวยการสถาบันการอาชีวศึกษาให้ทราบถึงปัญหาตั้งแต่วันที่ ครม.มีมติเห็นชอบแล้ว ซึ่งผู้อำนวยการสถาบันฯก็รับทราบและทำความเข้าใจกับนักศึกษาแล้วว่านักศึกษาอาจจะได้รับเงินเยียวยาล่าช้า”ดร.สุเทพ กล่าวและว่า สำหรับความคืบหน้าในการมอบเงินเยียวยา 2,000 บาทให้ นักเรียน นักศึกษาและผู้ปกครอง ขณะนี้ สอศ.ได้ส่งเงินไปให้สถานศึกษาแล้ว โดยโอนเงินให้สถานศึกษาผ่านบัญชีกรุงไทย และทางสถานศึกษาจะไปบริหารจัดการว่าจะจ่ายเงินให้ผู้ปกครองอย่างไร เช่น จ่ายเงินสด หรือโอนเงินผ่านธนาคาร เป็นต้น โดยเด็กทุกคนที่ลงทะเบียนเป็นนักเรียน นักศึกษาในระบบสามารถไปรับเงินที่สถานศึกษาได้เลย ทั้งนี้สถานศึกษาจะต้องรวบรวมหลักฐานการจ่ายเงินตามแบบฟอร์มของศธ.ไว้ด้วยเพื่อให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบได้”ดร.สุเทพ กล่าว