ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงการจัดการเรียนการสอนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด -19 ว่า แม้ว่าเวลานี้ยังอยู่ในช่วงที่ต้องมีความระมัดระวังอย่างสูง การจัดการที่ดำเนินการอยู่พบว่าเป็นระบบ on hand มากที่สุด รองลงมาก็เป็นระบบ online ขณะเดียวกันก็มีความพยายามที่จะเปิดสอน on site หรือการเรียนการสอนในรูปแบบปกติซึ่งยังไม่สามารถดำเนินการได้ แต่ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ ได้ร่วมกับ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข นำร่องโครงการ Sandbox Safety Zone in School หรือ SSS เป็นการจัดการเรียนการสอน on site ระบบปิด เพื่อให้สามารถจัดการเรียนการสอนแบบ on site ที่ปลอดภัยที่สุด โดยการดำเนินการทางกระทรวงสาธารณสุขได้ขอความเห็นชอบในหลักการจากศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)แล้ว
“การดำเนินการ SSS จะเป็นการจัดการเรียนการสอน on site ระบบปิด คือ ทั้ง ครูและนักเรียน จะต้องพักนอนอยู่ในโรงเรียน ตลอดระยะเวลาที่เปิดภาคเรียน จะออกนอกโรงเรียนไม่ได้จนกว่าปิดเทอม อาหารก็ทำกันในโรงเรียนโดยมีการส่งวัตถุดิบเข้าไปให้ เรียกว่า คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า ซึ่งทุกคนต้องมีวินัยและเข้มงวด โดยเด็กทุกคนที่จะเข้าเรียนระบบนี้จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองด้วย ส่วนครูก็ต้องได้รับวัคซีนแล้ว ที่สำคัญครูที่เข้าโครงการนี้ต้องถือว่าเป็นผู้ที่เสียสละและต้องมีความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นด้วย” ปลัดกระทรวงศึกษาธิการกล่าวและว่า ปัจจุบันมีโรงเรียนที่เริ่มนำร่องแล้ว 30-40 โรง และมีโรงเรียนที่สนใจเพิ่มขึ้นอีก 30-40 โรง ซึ่งจะต้องนำเสนอคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดเป็นราย ๆ ไป และในเร็ว ๆ นี้ จะเสนอต่อ ศบค.ชุดใหญ่เพื่อพิจารณา หากได้รับความเห็นชอบ เชื่อว่าการเปิดเรียนโดยระบบปิดในบางสถานศึกษาเพิ่มมากขึ้น จะทำให้การเรียนการสอนสามารถกลับเข้าสู่ปกติได้เร็วขึ้น
