เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2564 ดร.ตวง อันทะไชย ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การศึกษา วุฒิสภา เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ(ศธ.)และผู้บริหารองค์กรหลักศธ. ว่า ตนและคณะกมธ.การศึกษาวุฒิสภา ได้มาหารือและเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับ ร่าง พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. … ที่ขอให้แก้ไขเพิ่มเติม ส่วนไหนที่ติดขัด เช่น ระบบการศึกษาที่ต้องแก้ ซึ่งต้องเขียนในบทเฉพาะกาลให้ชัดเจน ว่าจะต้องสร้างการเปลี่ยนแปลง หรือเปลี่ยนผ่านทางการศึกษาภายในกี่เดือน กี่ปี ส่วนกรณีกลุ่มเครือข่ายองค์กรครู มีข้อกังวลเรื่องการปรับปรุงโครงสร้างและไม่เห็นด้วยกับโครงสร้างการรวบอำนาจเข้าสู่ส่วนกลางทั้งในมาตรา106ที่ให้อำนาจปลัดกระทรวงเป็นผู้บังคับบัญชา การให้อำนาจกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ชี้นำแทรกแซงรัฐสภาในการออกกฎหมายระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ และสาระบัญญัติของ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ไม่มีมาตราใดที่กล่าวถึงหน่วยงานการศึกษาระดับจังหวัดและเขตพื้นที่การศึกษาแต่อย่างใด แต่กลับกล่าวถึงผู้ว่าราชการจังหวัดให้มีอำนาจจัดการประชุมประธานคณะกรรมการสถานศึกษา แทนที่จะเป็นอำนาจหน้าที่ของหัวหน้าหน่วยงานการศึกษาในระดับจังหวัดโดยตรงเป็นผู้รับผิดชอบ พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดถึงไม่แก้ไขเรื่องนี้ในขั้นตอนของคณะกรรมการกฤษฏีกา และจะแก้ไขทันในการพิจารณาของรัฐสภาหรือไม่นั้น เรื่องนี้ไม่ต้องกังวล เพราะเรื่องต่างๆสามารถนำมาแก้ไขให้ขั้นตอนของการพิจารณาของรัฐสภาได้
ดร.ตวง กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ยังได้หารือถือการนำศาสตร์พระราชาที่สอดคล้องกับวิชาสังคมศึกษา ที่ให้ผู้เรียนได้พึ่งตัวเองได้มากขึ้น รวมถึงเสนอแนะให้ ศธ.ส่งเสริมการจัดการเรียนแบบทวิศึกษา เพื่อให้นักเรียนเรียนอาชีพได้มากขึ้น จบมามีรายได้ มีงานทำ สามารถเลี้ยงตนเองได้ ซึ่งจะเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคม