เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2564 รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.)เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามในหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. แจ้งหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ใหม่) หรือเกณฑ์ PA ทั้ง 4 สายงาน ได้แก่ สายงานการสอน (ว 9/2564) สายงานบริหารสถานศึกษา (ว 10/2564) สายงานนิเทศการศึกษา (ว 11/2564) และสายงานบริหารการศึกษา(ว 12/2564) เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบและถือปฏิบัติ โดยจะเริ่มใช้หลักเกณฑ์ใหม่นี้ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป
เลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวต่อไปว่า การจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินฯทั้ง 4 สายงานนี้ สืบเนื่องจาก ก.ค.ศ. ได้เห็นชอบการกำหนดมาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ทุกสายงาน ทุกตำแหน่ง และทุกวิทยฐานะ ใหม่ ซึ่งเป็นการกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบและลักษณะงานที่ปฏิบัติให้สอดคล้องต่อการเปลี่ยนแปลงกับการจัดการศึกษาในปัจจุบัน และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก จึงเป็นที่มาของการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่ง และวิทยฐานะใหม่ทั้ง 4 สายงาน โดยที่หลักเกณฑ์ใหม่นี้จะเป็นประโยชน์กับผู้เรียน สถานศึกษา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับครู ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ และผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา ให้ได้มีการพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพสูงขึ้นตามระดับวิทยฐานะ และทำให้กระบวนการพัฒนาผู้เรียน กระบวนการจัดการเรียนรู้ การจัดการศึกษา มีแนวทางในการพัฒนาที่ชัดเจน สามารถนำมากำหนดแผนพัฒนาการนิเทศการศึกษา หรือแผนพัฒนาสถานศึกษาหรือหน่วยงานการศึกษา ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
“การกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าว จะเป็นการลดกระบวนการและขั้นตอนโดยนำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ (ระบบ Digital Performance Appraisal : DPA) เพื่อเป็นการลดภาระในการจัดทำเอกสารและงบประมาณการประเมิน รวมถึงเกิดการเชื่อมโยง บูรณาการในระบบการประเมินวิทยฐานะ การประเมินผลการปฏิบัติงานเพื่อเลื่อนเงินเดือน และการประเมินเพื่อคงวิทยฐานะ ไปในคราวเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ลดความซ้ำซ้อนในเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผล และเป็นไปตามนโยบาย ของกระทรวงศึกษาธิการ และหลังจากนี้จนถึงเดือนตุลาคม 2564 สำนักงาน ก.ค.ศ. จะได้มีการสื่อสาร และสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินฯ ดังกล่าว ให้กับข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้อง ในรูปแบบต่าง ๆ ผ่านช่องทางการสื่อสารของสำนักงาน ก.ค.ศ. ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับข้าราชการครู บุคลากรศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้องได้ใช้เป็นแหล่งข้อมูลกลาง ในการเข้าศึกษารายละเอียดของหลักเกณฑ์ดังกล่าวต่อไป”ดร.ประวิต กล่าว