เมื่อวันที่ 18 พ.ค.2564 นายเศรษฐศิษฏ์ ณุวงค์ศรี ประธานเครือข่ายคนรักษ์อาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตนได้ยื่นหนังสือแนวทางการแก้ปัญหาโควิด -19 ในสถานศึกษาอาชีวศึกษา ต่อ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ในขณะนี้ยังไม่มีท่าทีว่าจะเบาลงและคาดการไม่ได้ว่าประเทศไทยจะแก้ปัญหานี้ได้เมื่อใด เครือข่ายคนรักษ์อาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย(ค.ร.อ.ท.) ในนามภาคประชาชนที่มีความห่วงใยต่อการเรียนการสอนและความปลอดภัยของบุคลากร นักเรียน นักศึกษาของอาชีวศึกษาทั้งประเทศ ซึ่งมีผลกระทบต่อการจัดการศึกษาของประเทศในภาพรวมและกระทรวงศึกษาแก้ปัญหาโดยการเลื่อนการเปิดเทอมไปเป็น วันที่ 1 มิถุนายน 2564 ทุกระดับทั้งการศึกษาขั้นพื้นฐานและระดับอาชีวศึกษา โดยเฉพาะสถานศึกษาด้านอาชีวะ ซึ่งเลขาธฺการอาชีวศึกษา ได้กำชับให้สถานศึกษามีการเตรียมการสอนไว้ 3 รูปแบบ ได้แก่ แบบออนไลน์ ( on line) การเรียนในชั้นเรียน(on site) และแบบผสมผสาน( on line + on site)ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี แต่อย่างไรก็ตามการจัดการเรียนการสอนระดับอาชีวศึกษาซึ่งถือว่าเป็นการสอนเด็กที่โตและการเรียนวิชาชีพต้องเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะเมื่อจบการศึกษาแต่ละระดับจะมีแค่ความรู้ทางวิชาการอย่างเดียวคงไม่สามารถนำไปประกอบอาชีพได้ ผู้สำเร็จการศึกษาจะต้องมีทักษะด้านฝีมือเป็นหลัก ดังนั้นควรหาวิธีการที่จะจัดให้ผู้เรียนอาชีวะได้เรียนในรูปแบบชั้นเรียนเป็นหลักและโดยเร็ว
นายเศรษฐศิษฏ์ กล่าวต่อไปว่า ทาง ค.ร.อ.ท. จึงขอเสนอแนวทางต่อรัฐมนตรี และเลขาธิการอาชีวศึกษาเพื่อให้เร่งแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว คือ ให้มีการจัดระบบคัดกรองการป้องกันตัวเอง บุคลากร ผู้เรียนอย่างมีคุณภาพที่สุด เร่งให้ผู้บริหาร ครู บุคลากร ได้ฉีดวัคซีนโดยเร็วก่อนวันที่1 มิถุนายน 2564 โดยแต่ละจังหวัดสามารถประสานผู้ว่าราชการจังหวัดโดยด่วนไม่ต้องรอการสั่งการจากเลขาฯอาชีวะ และให้นักเรียนนักศึกษาได้ประสานผู้ปกครองได้ฉีดวัคซีนโดยเร็วถ้าการดำเนินการทั้ง3 ข้อมีระบบมีคุณภาพ จะสามารถจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนได้โดยเร็ว และเป็น การสร้างความมั่นใจให้กับบุคลากร นักศึกษา และผู้ปกครอง จึงนำเรียนเสนอท่านรัฐมนตรี และเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้โปรดพิจารณาเพื่อแจ้งผู้เกี่ยวข้องต่อไป