เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019( โควิด 19) ในประเทศไทยมีการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนในวงกว้างมากขึ้น และกระจายในหลายพื้นที่ ถึงแม้ว่าขณะนี้จะเป็นช่วงปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2563 แต่ก็อยู่ในช่วงของการคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อในปีการศึกษา 2564 และสถานศึกษาบางแห่งก็มีกิจกรรมการเรียนจัดให้แก่นักเรียนในช่วงปิดภาคเรียน ดังนั้น จึงขอเน้นย้ำให้ ทุกสถานศึกษาที่ยังมีกิจกรรมต่างๆอยู่ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) อย่างเข้มงวดสูงสุด หากพบว่ามีปัญหาต้องประสานกับฝ่ายสาธารณสุขทันที และขอให้สถานศึกษาและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)งดการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก
“ กรณีสถานศึกษาของรัฐ และเอกชนใดที่ยังไม่ปิดภาคเรียน หรือ ยังมีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนอยู่ หากพบว่ามีนักเรียนหรือผู้ปกครองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ต้องหารือกับสาธารณสุขในพื้นที่ทันที เพื่อพิจารณาว่าจำเป็นต้องปิดสถานศึกษา หรือยุติการจัดกิจกรรมต่างๆในสถานศึกษาหรือไม่ และเร่งดำเนินการตามมติที่ได้จากการหารือทันที ทั้งนี้การพิจารณาปิดสถานศึกษาเป็นอำนาจของผู้บริหารสถานศึกษาอยู่แล้ว ขณะเดียวกันก็ให้สถานศึกษาพิจารณาจัดสอนชดเชยให้แก่ผู้เรียน ได้เรียนครบตามที่หลักสูตรกำหนดด้วย” รมว.ศธ.กล่าวและว่า ในส่วนของ ศธ.ซึ่งยังเปิดทำงานเป็นปกตินั้น ตนได้สั่งการให้เพิ่มประสิทธิภาพและความเข้มข้น ในการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ศธ.กำหนดไว้ ทั้งในเรื่องของการสวมหน้ากาก การให้ทุกหน่วยงานจัดตั้งจุดคัดกรองแอลกอฮอล์เจล และมีเจ้าหน้าที่ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายในทุกทางเข้า–ออกของอาคารรวมถึงมาตรการในการจัดประชุมต่างๆที่จะต้องจัดเฉพาะงานที่มีความจำเป็นจริงๆและการจัดงานต้องดำเนินการตามที่ ศบค.กำหนด และขอเน้นย้ำไปยังผู้บริหารและครูให้ดูแลป้องกันสุขภาพตัวเองและครอบครัวตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดด้วย พวกเราชาว ศธ.การ์ดต้องไม่ตก.