. ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการกล่าวถึงกรณีที่มีครูโรงเรียนเเห่งหนึ่ง ใน.หนองขวาว .ศรีขรภูมิ .สุรินทร์ ใช้ไม้บรรทัดตีศรีษะใบหน้า เเละด้านหลังนักเรียนชั้นอนุบาล 3 จนได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 31 มี.. ที่ผ่านมาว่า ตนไม่นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าวและได้รับทราบรายละเอียดเบื้องต้นจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.)สุรินทร์ เขต 1 เเล้วโดยเบื้องต้นทราบว่าครูผู้ก่อเหตุเป็นครูอัตรจ้าง ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งตนได้สั่งการให้  ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) ติดตามการให้ความช่วยเหลือนักเรียน เเละพิจารณาสั่งให้ครูคนดังกล่าว หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที พร้อมทั้งติดตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีความผิดจริง ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตามเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ ในลักษณะนี้อีกจึงได้สั่งการให้ เลขาธิการ กพฐ. ซักซ้อมเเนวปฏิบัติในการจ้างครูผู้สอน ว่าจะต้องเป็นผู้ที่ต้องมีใบอนุญาตปฏิบัติการสอนเท่านั้น เเละกำหนดไว้ในสัญญาจ้างด้วยว่า ครูจะต้องปฏิบัติตามจรรยาบรรณผู้ประกอบวิชาชีพครู พร้อมทั้งเน้นย้ำเป็นพิเศษว่า จะต้องปฏิบัติต่อศิษย์ด้วยความเมตตา ไม่กระทำการรุนเเรงต่อศิษย์ ไม่ว่าจะโดยวิธีการใดก็ตาม

.. ตรีนุช กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณี ที่นายพันยศ เจริญภักดี นักเรียนชั้น .5.2 โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ถูกยิงที่ศีรษะ บริเวณถนนเลี่ยงเมื่อพิษณุโลกสุโขทัยเนื่องจากมีปัญหากับเพื่อนร่วมชั้น จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในที่สุดนั้นตนได้ประชุมด่วน ร่วมกับ เลขาธิการ กพฐ. เพื่อหารือถึงมาตราการป้องกัน ไม่ให้เกิดความรุนเเรง ทั้งในเเละนอกสถานศึกษา โดยตนเห็นว่า การเเก้ปัญหาด้วยความรุนเเรง เป็นสิ่งไม่อาจยอมรับได้ ซึ่งเรื่องนี้นอกจากต้องมีการบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มงวดเเละเป็นธรรมเเล้ว จะต้องกลับมาให้ความสำคัญกับเรื่องจิตวิทยา ซึ่งเป็นพื้นฐานของการรู้จักตนเอง รู้จักวิธีการเเสดงออกที่ถูกต้องเหมาะสม ต่อผู้อื่นเเละสังคม  พร้อมกันนี้ตนได้หยิบยกนโยบาย Youth Counselor ของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ที่มีการดำเนินการมาเป็นระยะเวลาหนึ่งเเล้วมาทบทวนการทำงานใหม่ โดยเพิ่มบทบาทของนักจิตวิทยาประจำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศให้มีการทำงานเชิงรุกในสถานศึกษามากขึ้น ขณะเดียวกัน ต้องให้สถานศึกษาจัดระบบการเฝ้าระวังดูแลนักเรียนกลุ่มเสี่ยงที่จะก่อเหตุทะเลาะวิวาทอย่างรุนเเรง รวมถึงการเข้าป้องกันก่อนที่จะเกิดปัญหาการก่อเหตุรุนเเรง นอกจากนี้ ตนจะมอบหมายให้ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และผู้ที่เกี่ยวข้องศึกษาทบทวนระบบการดูเเล ความประพฤติของนักเรียนนักศึกษา ในปัจจุบันว่า มีประสิทธิภาพเพียงใด ควรจะมีการรื้อฟื้นระบบสารวัตรนักเรียนที่ยุบเลิกไป หรือ จะมีระบบอื่นๆที่สร้างความมั่นใจในการดูแลความปลอดภัยของนักเรียน อย่างมีประสิทธิภาพ

จะมีความเด็ดขาด ในการบังคับใช้กฎหมาย กฎระเบียบของข้าราชการครู เเละบุคลากรทางการศึกษา เพื่อเป็นบรรทัดฐาน ให้กับกรณีอื่นๆ เเละสร้างความมั่นใจร่วมกันระหว่าง ครู นักเรียน เเละผู้ปกครอง ต่อจุดเน้น เรื่องความปลอดภัยของผู้เรียนว่าการมีผู้เรียนเป็นเป้าหมายของการพัฒนา หรือ Student Centricity ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของรูปเเบบการทำงาน ‘TRUST’ จะต้องเริ่มจากการที่สถานศึกษาทุกเเห่งมีความพร้อมที่จะเป็นบ้านหลังที่สองให้เเก่เด็กๆทุกคน เพราะถ้าบ้านยังไม่ปลอดภัยเเล้ว เราก็ไม่อาจที่จะพูดถึงการพัฒนาผู้เรียนในเรื่องอื่นๆได้อีกเลยรมว.ศธ. กล่าว.

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
1000


0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments