เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2564 ภายหลังที่ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ได้ ถือฤกษ์ เข้ากระทรวงศึกษาธิการวันแรก ในเวลา 08.09 น. โดยเริ่มตั้งแต่การสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงศึกษาธิการ ได้แก่ พระพุทธบารมีศักดิ์สิทธิ์สยามิศรจักรีสัฏฐีอนุสรณ์ ศึกษาทรรังสรรค์ พร้อมสักการะเครื่องบูชาศาลพระภูมิ และถวายสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 6 เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้น ได้มอบนโยบายแก่ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า กระทรวงศึกษาธิการ ถือเป็นกระทรวงใหญ่ และ มีหลายมิติ โครงการต่าง ๆ ถือเป็นโครงการดี ๆ ที่ อดีต รมว.ศึกษาธิการ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ทำไว้ก็จะสานต่อ โดยเฉพาะเรื่องโรงเรียนคุณภาพของชุมชนและโรงเรียนดีสี่มุมเมือง ที่ต้องผลักดันและสานต่อให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น
สำหรับเรื่องเร่งด่วนสำคัญของกระทรวงศึกษาธิการที่สังคมจับตามอง คือ ความปลอดภัยในสถานศึกษา ที่ต้องมาดูว่าจะทำอย่างไร ถึงจะมีมาตรการป้องกันดูแลให้โรงเรียนปลอดภัย เพราะโรงเรียนก็ถือว่าเป็นบ้านหลังที่สองของเยาวชน ขณะเดียวกันสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้การศึกษาไทยต้องปรับตัว ต้องอาศัยการเรียนรู้ออนไลน์ ทำให้เห็นชัดเจน ซึ่งดิจิทัลแพลตฟอร์มเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องเข้ามาปรับใช้ในการเรียนรู้ ต้องทำให้มีความน่าสนใจเหมาะสมกับผู้เรียน และทำให้ผู้เรียนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้มากที่สุด ทำให้ผู้เรียนมีความรู้ที่หลากหลาย รวมถึงต้องเตรียมความพร้อมทักษะการเข้าสู่ทศวรรษที่ 21 ทั้งเรื่องของ กระบวนการคิด และ การปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า อีกเรื่องที่เป็นเป้าหมายสำคัญของกระทรวงศึกษาธิการ คือ เรื่องอาชีวศึกษา ซึ่งอาชีวะพรีเมี่ยมหลายแห่งยังไม่ได้ประชาสัมพันธ์ให้สังคมรู้ว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาชาติ ดังนั้นเราต้องสร้างความเข้าใจกับสังคม ว่า การเรียนอาชีวะเป็นการต่อยอดการศึกษาที่จะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิต เป็นทางเลือกหนึ่ง ในการสร้างคนสร้างชาติ ซึ่งอาชีวะจะเข้มแข็งได้ต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย
น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการเป็นกระทรวงใหญ่ มีหลายมิติ การทำงานต้องมีความไว้วางใจ และความเชื่อมั่น โดยตนจะทำในรูปแบบ “TRUST” หรือการทำงานที่มีความเชื่อใจ ไว้วางใจ เพื่อสร้างความไว้วางใจและความเชื่อมมั่นให้แก่ประชาชนว่าเราสามารถดูแลลูกหลานของท่านได้ รวมถึงเปิดกว้างเพื่อรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะต่าง ๆ ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกหนักใจกับกระแสสังคมวิจารณ์ทั้งเรื่องวุฒิการศึกษา และเรื่องอื่น ๆ หรือไม่ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่าไม่รู้สึกหนักใจ เพราะเข้าใจบริบทของตัวเอง ถือเป็นความท้าทาย และมั่นใจว่าจะสามารถทำงานร่วมกับคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช และ ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการได้อย่างไม่มีปัญหา อีกทั้งกระทรวงศึกษาธิการก็มีบุคลากรที่มีความสามรถและเชี่ยวชาญด้านการศึกษาช่วยดูแล ส่วนตนเอง มีหน้าที่เข้ามาวางระบบเพื่อให้การทำงานแก้ปัญหาต่าง ๆ เป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฝากงานอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ฝากให้เร่งดำเนินการสานต่อโครงการต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ รวมถึงให้กำลังใจการทำงาน ขอให้ตั้งใจ รับผิดชอบ และซื่อสัตย์ในการทำงาน ส่วนเรื่องที่ต้องประเมินผลงานทุก 3 เดือน ก็ไม่หนักใจ เพราะการทำงานไม่ว่าจะทำได้หรือไม่ได้ต้องมีคำตอบ นอกจากนี้ก่อนเข้ารับตำแหน่งก็มีโอกาสได้พูดคุยกับ นายณัฏฐพล มาแล้ว ซึ่งก็ได้ทำความเข้าใจและพร้อมที่จะสานต่อโครงการดี ๆ ที่นายณัฏฐพลทำไว้
ต่อข้อถาม กรณีกลุ่มนักเรียนเลว นำเค้กมามอบเป็นการต้อนรับ น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า อยากให้มองมุมบวก ในช่วงวัยรุ่นการแสดงออกเป็นเรื่องธรรมดา ดิฉันเองมีหน้าที่รับฟัง อะไรเป็นข้อแนะนำที่จะสามารถทำได้ก็จะดำเนินการแต่ต้องอยู่ในกรอบที่สามารถทำได้ในวงกว้าง เพราะศธ.ดูภาพรวมทั้งประเทศ ต้องดูประโยชน์ส่วนรวม